พายุหมุนนอกเขตร้อน ได้แก่ พายุหมุนที่เกิดขึ้นในเขตละติจูดกลางและเขตละติจูดสูง
ซึ่งในเขตละติจูดดังกล่าวจะ มีแนวมวลอากาศเย็นจากขั้วโลกหรือมหาสมุทรอาร์กติก
เคลื่อนตัวมาพบกับมวลอากาศอุ่นจากเขตกึ่งโซนร้อน
มวลอากาศดังกล่าวมีคุณสมบัติต่างกัน
แนวอากาศจะเกิดการเปลี่ยนโดยเริ่มมีลักษณะโค้งเป็นรูปคลื่น
อากาศอุ่นจะลอยตัวสูงขึ้นเหนืออากาศเย็น
ซึ่งเช่นเดียวกับแนวอากาศเย็นซึ่งจะเคลื่อนที่เข้าแทนที่แนวอากาศอุ่น
ทำให้มวลอากาศอุ่นลอยตัวสูงขึ้น
และจากคุณสมบัติการเคลื่อนที่ของมวลอากาศเย็นที่เคลื่อนตัวได้เร็วกว่า แนวอากาศ
อย่างไรก็ตามเวลาที่เกิดพายุหมุนนั้นจะเกิดลักษณะของศูนย์กลางความกดอากาศขึ้น
ซึ่งก็คือ ศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ ลมจะพัดเข้าหาศูนย์กลาง
(ความกดอากาศสูงเคลื่อนที่เข้าหาศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ)
ซึ่งลมพัดเข้าหาศูนย์กลางดังกล่าวในซีกโลกเหนือ มีทิศทางการพัดวนทวนเข็มนาฬิกา
ส่วนในซีกโลกใต้มีทิศทางตามเข็มนาฬิกา ซึ่งเป็นผลมาจากการหมุนของโลกนั่นเอง
พายุทอร์นาโด
(Tornado) เป็นพายุขนาดเล็กแต่มีความรุนแรงมากที่สุด
มักเกิดในประเทศสหรัฐอเมริกา และนอกนั้นเกิดที่แถบประเทศออสเตรเลีย
พายุดังกล่าวเกิดจากอากาศเคลื่อนที่เข้าหาศูน์กลางความกดอากาศต่ำอย่างรวดเร็ว
ลักษณะพายุคล้ายปล่องไฟสีดำห้อยลงมาจากเมฆคิวมูโลนิมบัส (Cumulonimbus) ในมวลพายุมีไอน้ำและฝุ่นละออง ตลอดจนวัตถุต่าง ๆ
ที่ถูกลมพัดลอยขึ้นไปด้วยความเร็วลมกว่า 400 กิโลเมตร /
ชั่วโมง เมื่อพายุเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดฐานของมันจะกวาดทุกอย่างบนพื้นดินขึ้นไปด้วย
ก่อให้เกิดความเสียหายมาก พายุทอร์นาโดจะเกิดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อน
เนื่องจากมวลอากาศขั้วโลกภาคพื้นสมุทรมาเคลื่อนที่พบกับมวลอากาศเขตร้อนภาคพื้นสมุทร
และถ้าเกิดขึ้นเหนือพื้นน้ำเราเรียกว่า "นาคเล่นน้ำ" (Waterspout)
พายุหมุนเขตร้อน เป็นพายุหมุนที่เกิดขึ้นในเขตร้อนบริเวณเส้นศูนย์สูตรระหว่าง 8 -
12 องศา เหนือและใต้
โดยมากมักเกิดบริเวณพื้นทะเลและมหาสมุทรที่มีอุณหภูมิของน้ำสูงกว่า 27 องศาเซลเซียส พายุหมุนเขตร้อนเป็นลักษณะของบริเวณความกดอากาศต่ำ
ศูนย์กลางพายุเป็นบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำมากที่สุด เรียกว่า "ตาพายุ"
(Eye of Storm) มีลักษณะกลม และกลมรี
มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 50 - 200 กิโลเมตร
บริเวณตาพายุจะเงียบสงบ ไม่มีลม ท้องฟ้าโปร่ง ไม่มีฝนตก ส่วนรอบๆ
ตาพายุจะเป็นบริเวณที่มีลมพัดแรงจัด มีเมฆครึ้ม มีฝนตกพายุรุนแรง พายุหมุนเขตร้อนจัดเป็นพายุที่มีความรุนแรงมาก
เกิดจากศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ ที่มีลมพัดเข้าหาศูนย์กลาง
ในซีกโลกเหนือทิศทางการหมุนของลมมีทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
ส่วนซีกโลกใต้มีทิศทางตามเข็มนาฬิกา ความเร็วลมเข้าสู่ศูนย์กลางอยู่ระหว่าง 120
- 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง พายุในเขตนี้จะมีฝนตกหนัก
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกแบ่งประเภทพายุหมุนตามความเร็วใกล้ศูนย์กลางพายุ
โดยแบ่งตามระดับความรุนแรง ได้ดังนี้
พายุดีเปรสชั่น (Depression) ความเร็วลมน้อยกว่า
63 กิโลเมตร / ชั่วโมง เป็นพายุอ่อนๆมี ฝนตกบาง ถึงหนัก
พายุโซนร้อน (Tropical Storm) ความเร็วลม 64 - 115 กิโลเมตร / ชั่วโมง มีกำลังปานกลาง มีฝนตกหนัก
พายุหมุนเขตร้อน หรือพายุไซโคลนเขตร้อน (Tropical Cyclone) ความเร็วลม มากกว่า 115 กิโลเมตร / ชั่วโมง เป็นพายุที่มีกำลังแรงสูงสุดมีฝนตกหนักมาก บางครั้งจะมีพายุฝนฟ้าคะนองด้วย
พายุโซนร้อน (Tropical Storm) ความเร็วลม 64 - 115 กิโลเมตร / ชั่วโมง มีกำลังปานกลาง มีฝนตกหนัก
พายุหมุนเขตร้อน หรือพายุไซโคลนเขตร้อน (Tropical Cyclone) ความเร็วลม มากกว่า 115 กิโลเมตร / ชั่วโมง เป็นพายุที่มีกำลังแรงสูงสุดมีฝนตกหนักมาก บางครั้งจะมีพายุฝนฟ้าคะนองด้วย
พายุหมุนเขตร้อนมีชื่อเรียกต่าง
ๆ กันตามแหล่งกำเนิด ดังนี้
ถ้าเกิดในมหาสมุทรแปซิฟิก
และทะเลจีนใต้ เรียกว่า ใต้ฝุ่น (Typhoon)
๐ ถ้าเกิดในอ่าวเบงกอล และทะเลอาหรับ เรียกว่า พายุไซโคลน (Cyclone)
๐ ถ้าเกิดในแอตแลนติก และทะเลแคริบเบียน เรียกว่า พายุเฮอร์ริเคน (Hurricane)
๐ ถ้าเกิดในแอตแลนติก และทะเลแคริบเบียน เรียกว่า พายุเฮอร์ริเคน (Hurricane)
๐ ถ้าเกิดในทะเลประเทศฟิลิปปินส์
เรียกว่า พายุบาเกียว(Baguio)
๐ ถ้าเกิดที่ทะเลออสเตรเลีย เรียกว่า พายุวิลลี วิลลี่ (Willi-Willi)
๐ ถ้าเกิดที่ทะเลออสเตรเลีย เรียกว่า พายุวิลลี วิลลี่ (Willi-Willi)
รายชื่อพายุหมุนเขตร้อนบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ
(ด้านตะวันตก) และทะเลจีนใต้[1]
|
|||||
ประเทศที่ส่งชื่อ
|
ชุดที่ 1
|
ชุดที่ 2
|
ชุดที่ 3
|
ชุดที่ 4
|
ชุดที่ 5
|
ด็อมเร็ย
|
กองเร็ย
|
นากรี
|
กรอวาญ (กระวาน)
|
ซาเระกา (สาลิกา)
|
|
ไห่ขุย[# 1]
|
ยวี่ถู่
|
เฟิงเฉิน
|
ตู้เจวียน
|
ไหหม่า
|
|
คีโรกี
|
โทราจี
|
คัลแมกี
|
มูจีแก[# 2]
|
เมอารี
|
|
ฮ่องกง (จีน)
|
ไคตั๊ก
|
หม่านหยี่
|
ฟงวอง
|
ฉอยหวั่น
|
หมาอ๊อน
|
เท็มบิง
|
อูซางิ
|
คัมมูริ
|
คปปุ
|
โทกาเงะ
|
|
บอละเวน
|
ปาบึก (ปลาบึก)
|
ฟานทอง
|
จำปี[# 3]
|
นกเต็น (นกกระเต็น)
|
|
มาเก๊า (จีน)
|
ซันปา[# 4]
|
หวู่ติบ
|
หว่องฟ้ง
|
ยีนฟ้า[# 5]
|
หมุ่ยฟ้า
|
เจอลาวัต
|
เซอปัต
|
นูรี[# 6]
|
เมอโลร์
|
เมอร์บก
|
|
เอวิเนียร์
|
มุน[# 7]
|
ซินลากู
|
เนพาร์ตัก
|
นันมาดอล
|
|
มาลิกซี[# 8]
|
ดานัส
|
ฮากูปิต
|
ลูปิต
|
ตาลัส
|
|
แคมี
|
นารี
|
ชังมี
|
มีรีแน[# 9]
|
โนรู
|
|
พระพิรุณ
|
วิภา
|
เมขลา
|
นิดา
|
กุหลาบ
|
|
มาเรีย
|
ฟรานซิสโก
|
ฮีโกส
|
โอไมส์
|
โรคี
|
|
เซินติญ[# 10]
|
เลกีมา
|
บาหวี่
|
โกนเซิน
|
เซินกา
|
|
อ็อมปึล (อำปึล)[# 11]
|
กรอซา
|
ไมสัก
|
จันทู
|
เนสาท
|
|
อู๋คง
|
ไป๋ลู่[# 12]
|
ไห่เฉิน
|
เตี้ยนหมู่
|
ไห่ถาง
|
|
ชงดารี[# 13]
|
โพดุล
|
โนอึล[# 14]
|
มินดุลเล
|
นัลแก
|
|
ฮ่องกง (จีน)
|
ชานชาน
|
เหล่งเหลง
|
ดอลฟิน[# 15]
|
ไลออนร็อก[# 16]
|
บันยัน
|
ยางิ
|
คาจิกิ
|
คูจิระ
|
คมปาซุ
|
ฮาโตะ[# 17]
|
|
หลี่ผี[# 18]
|
ฟ้าใส
|
จันหอม (จันทน์หอม)
|
น้ำเทิน
|
ปาข่า (ปลาข่า)[# 19]
|
|
มาเก๊า (จีน)
|
เบบินคา
|
เผ่ย์ผ่า[# 20]
|
หลิ่นฟ้า
|
หมาเหล่า
|
ซ้านหวู่
|
รุมเบีย
|
ตาปะฮ์
|
นังกา
|
เมอรันตี
|
มาวาร์
|
|
ซูลิก
|
มิแทก
|
เซาเดโลร์
|
ราอี[# 21]
|
กูโชล
|
|
ซีมารอน
|
ฮากีบิส
|
โมลาเบ[# 22]
|
มาลากัส
|
ตาลิม
|
|
เชบี
|
นอกูรี
|
โคนี
|
เมกี
|
ทกซูรี[# 23]
|
|
มังคุด[# 24]
|
อัสนี[# 26]
|
ชบา
|
ขนุน
|
||
บารีจัต[# 27]
|
แมตโม[# 28]
|
เอตาว
|
แอรี[# 29]
|
ลัง[# 30]
|
|
จ่ามี
|
หะลอง
|
หว่ามก๋อ
|
ซงด่า
|
เซาลา
|
ชื่อพายุตั้งใหม่ เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2556
(ชื่อภาษาไทยปรับปรุงใหม่)
(ชื่อภาษาไทยปรับปรุงใหม่)
ตามหนังสือราชบัณฑิตยสถานที่ รถ 0002/129
ลงวันที่ 20 มกราคม 2557
การตั้งชื่อใช้หมุนเวียนกันไปตามลาดับตัวอักษรและลาดับ Column เมื่อถึงชื่อสุดท้าย คือ SAOLA
การตั้งชื่อใช้หมุนเวียนกันไปตามลาดับตัวอักษรและลาดับ Column เมื่อถึงชื่อสุดท้าย คือ SAOLA
จะเริ่มต้นที่ Column 1 ใหม่คือ DAMREY
ตารางนี้แสดงรายการพายุทั้งหมดที่เกิดขึ้นทางตะวันตก
ชื่อพายุ
|
ช่วงวันที่
|
ลมเร็วสูงสุด
|
ความกดอากาศ
|
พื้นที่ผลกระทบ
|
ความเสียหาย
|
ผู้เสียชีวิต
|
|
ดีเปรสชันเขตร้อน
|
2 – 4 มกราคม
|
ดีเปรสชันเขตร้อน
|
ไม่ได้ระบุ
|
1006 hPa (29.71 นิ้วปรอท)
|
ไม่มี
|
ไม่มี
|
|
เมขลา
(อามัง)
|
13 – 21 มกราคม
|
พายุไต้ฝุ่น
|
130 km/h (80 ไมล์/ชม.)
|
965 hPa (28.50 นิ้วปรอท)
|
684 พันดอลลาร์สหรัฐ
|
2
|
อากาศเมื่อได้รับความร้อนจะขยายตัว
และหากบริเวณนั้นมีความกดอากาศต่ำอากาศจะลอยตัวสูงขึ้น
บริเวณที่อากาศเย็นกว่ามีความกดอากาศสูงกว่าจะเคลื่อนเข้ามาแทนที่อากาศร้อน
ทำให้เกิด ลม ถ้าบริเวณทั้งสองแห่งมีความกดอากาศต่างกันมาก
ลมจะพัดแรงจนบางครั้งเรียกว่า พายุ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งต่างๆ
ในบริเวณที่พายุพัดผ่าน
พายุหมุนเขตร้อน เกิดเหนือมหาสมุทรในเขตร้อนที่มีอุณหภูมิของน้ำสูงกว่า
26.5 องศาเซลล์เซียส ความกดอากาศโดยทั่วไปต่ำกว่า 1,000
มิลลิบาร์ เกิดพร้อมกับลมที่พัดรุนแรงมาก
โดยพัดเวียนเป็นวงทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ
ส่วนทางซีกโลกใต้พัดเวียนเป็นวงตามเข็มนาฬิกาเข้าสู่ศูนย์กลางพายุ
ตามข้อตกลงระหว่างประเทศได้กำหนดการเรียกชื่อพายุหมุนตามความรุนแรงดังนี้
พายุดีเปรสชัน
ไม่เกิน 63 km/hr
คือพายุหมุนเขตร้อนประเภทหนึ่งที่มีความเร็วที่จุดศูนย์กลางไม่สูงมากนัก
ความเร็วลมไม่เกิน 61 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มีอำนาจการทำลายล้างไม่สูงมากนัก โดยมีความเร็วน้อยกว่าพายุโซนร้อน
ซึ่งมีความเร็วลมตั้งแต่ 62 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ไม่เกิน 117
กิโลเมตรต่อชั่วโมงและพายุไต้ฝุ่นที่มีความเร็วตั้งแต่
118
กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปพายุดีเปรสชันนั้นเป็นพายุหรือพายุฝนที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุด
เป็นพายุที่มีกำลังอ่อนที่สุดในบรรดาพายุที่มีชื่อเรียกทั้งหลาย
ความเร็วของลมใกล้บริเวณศูนย์กลางของดีเปรสชันไม่เกิน 33 น็อต
หรือ 61 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่สร้างอันตรายรุนแรงมากนัก
แต่สามารถทำให้ต้นไม้ใหญ่ล้ม เสาไฟฟ้าหักโค่นและบ้านเรือนที่อยู่อาศัยเสียหายได้
โดยทั่วไปจะทำให้มีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและสามารถตกหนัก
ลมกรรโชกแรงและทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ โดยทั่วไปแล้วพายุดีเปรสชั่นสามารถทำให้เกิดฝนตกหนักในระดับ
100 มิลลิเมตร ภายใน 12 ชั่วโมง
และสามารถตกติดต่อกันได้หลายวัน ดังนั้นเมื่อพายุพัดผ่านไปแล้วเรามักจะพบน้ำท่วม
ดินถล่ม ดินภูเขาเกิดการสไลด์ตัว ถนนขาด เป็นต้น พายุดีเปรสชันนั้นถ้าเกิดขึ้นใกล้ชายฝั่ง
เมื่อขึ้นฝั่งแล้วก็มักจะสลายตัวได้ภายใน 1 สัปดาห์
แต่ถ้าเกิดในทะเลลึกหรือห่างชายฝั่งมาก ผสมกับแรงกดอากาศที่แตกต่างกันหรือมีพายุขนาดเล็กอื่นๆอยู่ใกล้
จะสามารถก่อตัวให้ใหญ่ขึ้นและแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุโซนร้อนและพายุไต้ฝุ่นซึ่งมีความเร็วสูงกว่าและอำนาจทำลายล้างสูงมากกว่าได้ในที่สุด
พายุโซน
เป็นพายุที่มีขนาดความแรงแงลมปานกลาง
กล่าวคือมีความเร็วอยู่ระหว่าง 34-63 นอต หรือ 63-117
กิโลเมตร/ชั่วโมง พายุโซนร้อนเป็นพายุที่มีความแรงน้อยกว่าพายุไต้ฝุ่น
(118 กิโลเมตร/ชั่วโมงขึ้นไป) แต่สูงกว่าพายุดีเปรสชัน
(ต่ำกว่า 63 กิโลเมตร/ชั่วโมง)
โดยที่พายุโซนร้อนไม่ถือว่าเป็นพายุหมุน
พายุโซนร้อนเป็นพายุที่เกิดขึ้นได้บ่อยและเกิดขึ้นได้ทั่วโลก
โดยสามารถเกิดขึ้นจากการทวีความแรงขึ้นของพายุดีเปรสชันหรือการอ่อนตัวของพายุไต้ฝุ่น
อย่างใดอย่างหนึ่ง
โดยพายุประเภทนี้ถ้าเกิดขึ้นใกล้ชายฝั่งก็มักจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันก่อนจะสลายตัวไปในที่สุด
แต่ถ้าเกิดในทะเลลึกที่ห่างไกลชายฝั่งก็มักจะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นในที่สุด
พายุโซนร้อนสามารถทำให้เกิดฝนตกหนักและเกิดในวงกว้าง
สามารถส่งผลให้เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรง ต้นไม้ใหญ่หักโค่น ถนนหนทางเสียหายและแผ่นดินสไลด์ตัวได้
หมายเหตุ เมื่อพายุโซนร้อนทวีความรุนแรงหรือความเร็วของลมที่ศูนย์กลางมากกว่า 117 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็จะกลายสภาพเป็นพายุหมุนที่มีความรุนแรงสูงสุดที่เรารู้จักกันในชื่อพายุไต้ฝุ่น พายุไซโคลน หรือพายุเฮอร์ริเคน แล้วแต่สถานที่เกิด กล่าวคือถ้าเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิคทางเหนือหรือในทะเลจีนไต้ จะเรียกว่าพายุไต้ฝุ่น ถ้าเกิดขึ้นในมหาสมุทรอินเดียจะเรียกว่าพายุไซโคลน และถ้าเกิดในอ่าวเม็กซิโกหรือแถบอเมริกาเหนือจะเรียกว่าพายุเฮอร์ริเคน
หมายเหตุ เมื่อพายุโซนร้อนทวีความรุนแรงหรือความเร็วของลมที่ศูนย์กลางมากกว่า 117 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็จะกลายสภาพเป็นพายุหมุนที่มีความรุนแรงสูงสุดที่เรารู้จักกันในชื่อพายุไต้ฝุ่น พายุไซโคลน หรือพายุเฮอร์ริเคน แล้วแต่สถานที่เกิด กล่าวคือถ้าเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิคทางเหนือหรือในทะเลจีนไต้ จะเรียกว่าพายุไต้ฝุ่น ถ้าเกิดขึ้นในมหาสมุทรอินเดียจะเรียกว่าพายุไซโคลน และถ้าเกิดในอ่าวเม็กซิโกหรือแถบอเมริกาเหนือจะเรียกว่าพายุเฮอร์ริเคน
พายุไต้ฝุ่นมากกว่า
118 km/hr
เป็นพายุหมุนเขตร้อนความเร็วลมสูงสุด ซึ่งก่อตัวขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิกระหว่าง 180° กับ 100°
ตะวันออก ซึ่งภูมิภาคนี้ถูกตั้งชื่อว่า
"แอ่งแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ"[1] สำหรับจุดประสงค์เกี่ยวกับองค์กร
มหาสมุทรแปซฟิกตอนเหนือถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน ได้แก่ ทางตะวันออก
(ทวีปอเมริกาเหนือจนถึงลองติจูด 140° ตะวันตก)
ตอนกลาง (140° ตะวันตกถึง 180°) และทางตะวันตก
(180° ถึง 100° ตะวันออก)
ปรากฏการณ์พายุแบบเดียวกันที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือทางตะวันออกจะถูกเรียกว่า เฮอร์ริเคน และพายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนที่ไปยังมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกจะถูกเรียกว่า
ไต้ฝุ่น ศูนย์กลางอุตุนิยมวิทยากำหนดขอบเขตส่วนภูมิภาค (RSMC) ซึ่งมีหน้าที่พยากรณ์การเกิดพายุหมุนเขตร้อนตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
และศูนย์เตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนอื่น ๆ
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิกตั้งอยู่ในโฮโนลูลู (ศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น)
ฟิลิปปินส์และฮ่องกง ขณะที่ RSMC ตั้งชื่อในแต่ละระบบ
ตัวรายชื่อหลักนั้นเป็นความร่วมมือกันระหว่าง 18 ประเทศ
รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ซึ่งประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นทุกปี
พายุหมุนเขตร้อนมีชื่อเรียกต่างกันไปตามแหล่งกำเนิด เช่น
พายุที่เกิดในอ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดียเรียกว่า
“ไซโคลน (Cyclone)”
พายุที่เกิดในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ
ทะเลแคริบเบียน อ่าวเม็กซิโก และทางด้านตะวันตกของเม็กซิโก เรียกว่า “เฮอร์ริเคน (Hurricane)”
พายุที่เกิดในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตก
มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ และทะเลจีนใต้เรียกว่า “ไต้ฝุ่น (Typhoon)”
พายุที่เกิดแถบทวีปออสเตรเลียเรียกว่า
“วิลลี-วิลลี (Willy-Willy)”
พายุฟ้าคะนอง เป็นลมพายุที่พัดแรงฝนตกหนักและมีฟ้าแลบ
ฟ้าร้อง ฟ้าผ่าเกิดขึ้นและบางครั้งอาจมีลูกเห็บเกิดขึ้นด้วย
เราจะพบปรากฏการพายุฟ้าคะนองได้ทั่วไปในเขตภูมิอากาศร้อนชื้น
บทสรุปและข้อเสนอแนะ
พายุหมุนเกิดจากศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ
ทำให้บริเวณโดยรอบศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ ซึ่งก็คือ
ความกดอากาศสูงโดยรอบจะพัดเข้าหาศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ
ขณะเดียวกันศูนย์กลางความกดอากาศต่ำจะลอยตัวสูงขึ้น และเย็นลงด้วยอัตราอะเดียเบติก
(อุณหภูมิลดลงเมื่อความสูงเพิ่มขึ้น) ทำให้เกิดเมฆและหยาดน้ำฟ้า
พายุหมุนจะมีความรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับอัตราการลดลงของความกดอากาศ
ถ้าอัตราการลดลงของความกดอากาศมีมากจะเกิดพายุรุนแรง พายุมีหลายรูปแบบ
ดังนี้ 1.พายุหมุนนอกเขตร้อน 2.พายุทอร์นาโด
3.พายุหมุนเขตร้อน 4.พายุดีเปรสชั่น 5. พายุโซนร้อน 6.พายุเขตร้อน 7.พายุหมุนเขตร้อน
หรือพายุไซโคลนเขตร้อน ซึ่งจากการค้นคว้า
เราไม่สามารถหยุดมันได้ ก่อให้เกิดความเสียหายมากหรือน้อย
ขึ้นอยู่กับขนาดของพายุนั้นๆ
บรรณานุกรม
การเกิดพายุ.
(2543).”การศึกษาการเกิดพายุ”สืบค้นเมื่อ 2558.ธันวาคม15,เข้าถึงได้จาก:
Lucky Club | Casino Site - Lucky Club
ตอบลบLucky Club is the perfect place to be for fun and games, with a luckyclub wide range of game options, games and great promotions. Play responsibly. Rating: 3.5 · 4 votes · Price range:.